การใช้คลื่นความถี่วิทยุ RFVTR เพื่อการรักษาในปัจจุบันนี้นั้น สามารถช่วยแก้ไขได้ในหลายอาการ หลายโรค เช่น โรคจมูกอักเสบเรื้อรัง , รักษาอาการนอนกรน , ลดการบวมของเยื่อบุจมูก , แก้ปัญหาภูมิแพ้ เป็นต้น
การใช้คลื่นความถี่วิทยุ RFVTR เพื่อการรักษา โรคจมูกอักเสบเรื้อรัง
เกิดจากเยื่อบุจมูกไวผิดปกติ พอไปสัมผัสกับสิ่งกระตุ้น เช่น กลิ่นฉุน , ฝุ่น , ควัน , การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ ก็ส่งผลทำให้ผู้ป่วยเกิดอาการ คัน, จาม, คัดจมูก, น้ำมูกไหล , มีเสมหะ ส่วนใหญ่คือการหลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้น และใช้ยารับประทาน พร้อมใช้ยาพ่นจมูก จะช่วยบรรเทาอาการดังที่กล่าวมาได้ แต่สำหรับผู้ป่วยบางรายถึงแม้จะหลีกเลี่ยงและใช้ยาแล้ว แต่อาการต่างๆ ดังกล่าวไม่ดีขึ้น ด้วยเหตุนี้การใช้คลื่นความถี่วิทยุจึง เป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการรักษา
การใช้คลื่นความถี่วิทยุ เพื่อรักษาโรคจมูกอักเสบเรื้อรัง เป็นการนำเข็มเข้าไปในเนื้อเยื่อบุจมูก เพื่อส่งคลื่นความถี่สูง Radiofrequency ซึ่งสามารถเปลี่ยนกลายเป็นพลังงานความร้อน ให้แก่เนื้อเยื่อที่อยู่รอบๆได้ โดยจะทำให้เกิดการสูญเสียสภาพ รวมทั้งการตายของเนื้อเยื่อ ประมาณ 1-2 เดือน ต่อมาจะเกิดพังผืด ช่วยลดปริมาตรของเยื่อบุ ทำให้โพรงจมูกโล่งขึ้น หายใจได้ง่ายขึ้น อีกทั้งคลื่นความถี่สูงยังได้เข้าไปทำลายเส้นประสาท ทำให้อาการคัน, จาม, น้ำมูกไหลลดลงด้วย
การใช้คลื่นความถี่วิทยุ RFVTR เพื่อการรักษาอาการนอนกรน
เป็นการนำเข็มเข้าไปในเนื้อเยื่ออ่อน เช่น ต่อมทอนซิล หรือโคนลิ้น เพื่อส่งคลื่นความถี่สูง Radiofrequency เข้าไป และมันเข้าไปเปลี่ยนเป็นพลังงานความร้อนให้กับเนื้อเยื่อ จนเกิดการสูญเสียสภาพ 1-2 เดือน จากนั้นก็จะเกิดเนื้อเยื่อพังผืด ทำให้ลดขนาดเนื้อเยื่อต่างๆ ซึ่งปิดกั้นทางเดินหายใจส่วนบน เปลี่ยนทางเดินหายใจกว้างมากขึ้น หายใจได้สะดวกขึ้น จากการใช้ปริมาณความร้อนที่เนื้อเยื่อได้รับ น้อยกว่าการใช้เลเซอร์ ทำให้อาการปวดแผลหลังผ่าตัดลดน้อยลง โดยวิธีนี้สามารถทำได้โดยใช้ยาชาเฉพาะจุด หรือดมยาสลบ แต่ถ้าทำโดยใช้ยาชาเฉพาะที่ ผู้ป่วยไม่จำเป็นต้องนอนโรงพยาบาล กลับบ้านได้เลย ด้วยผลของการลดขนาดดังกล่าวจะเห็นผลได้อย่างชัดเจนภายในระยะเวลา 4-6 สัปดาห์ อาจกลับมาทำซ้ำได้อีกถ้าผลยังไม่เป็นที่น่าพอใจ ข้อดีของวิธีนี้คือ ง่าย , ผลข้างเคียงน้อย , เห็นผลดี และการผ่าตัดชนิดนี้เป็นการผ่าตัดทางช่องปาก โดยแพทย์จะใส่สอดใส่เครื่องมือเข้าไปในทางช่องปาก ผู้ป่วยจึงปราศจากบาดแผลใดๆ ที่สามารถมองเห็นได้จากภายนอก แต่อย่างไรก็ตามการผ่าตัดชนิดนี้ ควรทำเมื่อผู้ป่วยมีร่างกายสุขภาพสมบูรณ์ดี พักผ่อนอย่างเพียงพอ ไม่เป็นหวัด